วิเคราะห์ตัวเองจากโมเดล I-T-M-V เก่งลึก รู้กว้าง เข้าใจคน เราคือแบบไหน? เพื่อค้นหาทักษะเด่นและเส้นทางอาชีพที่ใช่ รู้สไตล์การทำงานของตัวเองแบบไม่ฝืน
ช่วงนี้ยุ้ยกำลังสำรวจตัวเองในฐานะคนทำงานสาย UX/UI และเป็น mentor สอนผู้อื่นทำเว็บไซต์ธุรกิจมาหลายปี
แล้วใน feed เด้งโมเดลนี้ขึ้นมาหลายโพสต์ติดกัน ที่ชื่อว่า I-T-M-V Shaped Model ทำให้ยุ้ยสนใจและอยากเข้าใจตัวเองว่า “เอ้อ… แล้วตัวเราเป็นแบบไหน ทักษะที่โดดเด่นของเราคืออะไรกันแน่” ก็ไปหาข้อมูลและให้ ChatGPT ช่วยวิเคราะห์ความยุ้ย 555
เลยอยากเอามาเล่าให้ฟังค่ะ เผื่อใครที่ยังไม่แน่ใจว่า “ตัวเองถนัดอะไรจริงๆ” บทความนี้อาจช่วยให้เห็นภาพตัวเองชัดขึ้นค่ะ และในมุมของยุ้ยเอง ก็อยากใช้พื้นที่นี้เพื่อให้ลูกค้า ผู้ว่าจ้าง พาร์ทเนอร์ เข้าใจความถนัด แนวคิด วิธีปฏิบัติ และเส้นทางการเติบโตของยุ้ยมากขึ้นค่ะ
โมเดล I-T-M-V Shaped ที่พูดถึงในบทความนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดของ Jeroen Kraaijenbrink ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาทีมและการบริหารจัดการ
สรุปสั้นๆ I-T-M-V คืออะไร?
- I-Shaped: เก่งลึกมากด้านเดียว เช่น สาย dev ที่โฟกัสเทคนิคจัดๆ
- T-Shaped: เก่งลึกหนึ่งด้าน + รู้กว้างด้านอื่น เพียงพอทำงานกับสายอื่นได้ดี
- M-Shaped: เก่งลึกหลายด้าน เช่น UX + ธุรกิจ + เทคโนโลยี
- V-Shaped: เก่งลึก + เข้าใจคน + ยืดหยุ่นสูง มองเห็นภาพรวมและอ่านสถานการณ์ได้เร็ว
แล้วยุ้ย…เป็นแบบไหน?
จากการทบทวนตัวเองและให้ ChatGPT ช่วยวิเคราะห์ พบว่ายุ้ยเป็น M-Shaped ผสม V-Shaped
ChatGPT said:
จากที่เราคุยกัน… เธอคือ M-Shaped ผสมกับ V-Shaped อย่างเด่นชัดM-Shaped: เพราะเธอเชี่ยวชาญลึกมากทั้ง
- Web Design/UX
- WordPress/Elementor (สายเทคนิค)
- การสื่อสาร/การสอน (การถ่ายทอดความรู้ระดับสูง)
และยังเข้าใจธุรกิจของลูกค้าในมุม SME อีกด้วยV-Shaped: เพราะเธอมี Empathy ที่สูงมาก
- เธอฟัง เข้าใจความกลัว ความไม่มั่นใจของผู้เรียน
- เธอปรับการสอนให้เหมาะกับแต่ละคน
- เธอไม่ได้แค่ให้ความรู้ แต่ให้กำลังใจ ความมั่นใจ และความกล้า
ถ้าเปรียบเป็นกราฟิกนะ รูปแบบของเธอจะเป็น M ที่มีหัวใจอยู่ข้างใน… กลมกลืนกับความเป็น V แบบธรรมชาติเลย
ยุ้ยขอขยายความเพิ่มนะคะ ในความเป็น M + V
ยุ้ยเองก็เริ่มต้นจากศูนย์เหมือนหลายๆ คน เริ่มจากงานเล็กๆ ในตำแหน่ง Junior Designer และเลือกเดินบนเส้นทางนี้มาตลอด 20 ปี ค่อยๆ สะสมประสบการณ์จนกลายเป็นความเชี่ยวชาญหลายด้าน อย่างที่ทุกท่านจะได้เห็นในบทความนี้ค่ะ
M-Shaped: ยุ้ยเชี่ยวชาญลึกหลายด้าน
1. UX/UI (Website & Web App)
ยุ้ยมีประสบการณ์ออกแบบตั้งแต่เว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็ก ไปจนถึงแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ และเคยทำงานในทีมทั้งแบบ Waterfall และ Agile โดยมักจะใช้แนวทาง Design Thinking ในการคิดงานและออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ … ปรับ process ตามความจำเป็นและสเกลของงาน ส่วน tools ปรับตามยุคสมัย ปัจจุบันยุ้ยใช้ Figma ค่ะ
2. WordPress / Elementor (สายเทคนิค)
เคยมีเพื่อนร่วมงานบอกว่า ยุ้ยโดดเด่นเรื่องการเลือกใช้เครื่องมือ การจัดการโปรเจกต์และทรัพยากร รวมถึงการปรับแต่งประสิทธิภาพเว็บไซต์ (อันนี้เกิดจากตัวยุ้ยเองชอบทำเว็บไซต์มากๆ เลยค่ะ แต่เขียนโค้ดไม่เป็น ฮิๆ และอยากออกแบบให้ได้ดังใจ จึงฝึกใช้ WordPress เมื่อ 16 ปีที่แล้ว และต่อยอดการอัปเดตเวอร์ชันใหม่ๆ รวมถึงเครื่องมือต่างๆ จนถึงทุกวันนี้)
เมื่อเคยเป็นฟรีแลนซ์ที่ต้องทำเองทุกอย่างและมีทรัพยากรจำกัด ก็เลยได้ทักษะจัดการโปรเจกต์และบริหารทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุดค่ะ
3. การสอน / การอธิบาย
ยุ้ยเข้าใจมุมของ “คนที่เป็นมือใหม่” หรือคนที่ไม่มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยีเลย บางเรื่องอาจดูง่ายสำหรับคนในสายงาน แต่ยุ้ยรู้ดีว่า ถ้าไม่เคยทำมาก่อน มันก็จะดูยากและน่ากลัว ยุ้ยจึงมักจะอธิบายภาษา tech ด้วยคำพูดง่ายๆ และยกตัวอย่างที่เขารู้จักในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แนวทางนี้ยุ้ยใช้ได้ดีทั้งกับผู้เรียน และการสื่อสารกับลูกค้า รวมถึงทีมงานอื่นด้วยค่ะ
V-Shaped: ยุ้ยมี Empathy สูงมาก
1. ด้าน UX/UI for SME
ยุ้ยเข้าใจทั้งมุมเจ้าของธุรกิจและลูกค้าของเขา เพราะทำงานใกล้ชิดกับ SME มาตลอด 20 ปี สิ่งที่พบคือ ลูกค้าที่เข้ามาดูข้อมูลหรืออยู่ในช่วงตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการ ส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการเว็บไซต์หรูหรา แต่ต้องการ เว็บที่สื่อสารชัดเจน ใช้งานง่าย และไว้ใจได้ โดยเน้นข้อมูลและรูปภาพของสินค้า/บริการที่ครบถ้วน ดูง่าย เข้าใจได้เร็ว ติดต่อสะดวก พร้อมแบรนด์ดิ้งที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเว็บไซต์นั้นน่าเชื่อถือและจดจำได้
ยุ้ยเข้าใจดีว่า “ทำไมเจ้าของธุรกิจอยากได้เว็บไซต์ SEO แรงๆ” เพราะลูกค้าและพาร์ทเนอร์ของเขาใช้ Google ค้นหาสินค้าและบริการ และเพื่อทำให้เว็บไซต์ถูกพบง่ายขึ้นก็จำเป็นต้องมี SEO ที่มีประสิทธิภาพ
และนี่เป็นจุดตั้งต้นของแนวความคิด “กลยุทธ์ Human Search Experience” ที่ยุ้ยมักจะเสนอให้กับหลายๆ ธุรกิจ ใช้ร่วมกับหลักการ UX/UI และพวกเขาก็ได้ผลตอบรับที่ดีมากค่ะ
2. ด้าน UX/UI for Digital Platform
ยุ้ยเคยมีโอกาสออกแบบ UX/UI ให้กับองค์กรขนาดใหญ่ รวมถึงระบบที่มีความซับซ้อน เช่น ระบบภายในองค์กร, ระบบจัดการข้อมูล CMS, และ platform ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ซึ่งงานลักษณะนี้ต้องคิดลึกซึ้งและรอบด้านมากกว่าการออกแบบหน้าเว็บไซต์ทั่วไป
สิ่งที่ยุ้ยให้ความสำคัญมาก คือ “การเข้าใจบริบทของผู้ใช้งานจริง” ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของกระบวนการออกแบบ ยุ้ยจะตั้งคำถามกับตัวเอง, stakeholder และทีมงานว่า
- เป้าหมายของระบบนี้คืออะไร?
- ใครบ้างคือผู้ใช้งานตัวจริงของระบบนี้?
- พวกเขาต้องใช้งานในสถานการณ์แบบไหนบ้าง?
- พฤติกรรมเขาเป็นยังไง?
- สิ่งไหนที่ทำให้เขาหงุดหงิด หรือสับสน?
- ออกแบบยังไงให้เขาทำงานได้เร็วขึ้น? หรือ ขายได้มากขึ้น? เมื่อใช้ระบบนี้
จากนั้นยุ้ยจะเริ่มออกแบบตั้งแต่ flow การใช้งาน จนถึงหน้าตา UI โดยใช้หลัก UX ที่ช่วยลดความสับสน ให้ผู้ใช้เข้าใจได้ง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และในกรณีขององค์กรใหญ่ เรายังต้องบาลานซ์ระหว่างความซับซ้อนของระบบและข้อจำกัดต่างๆ กับความง่ายในการใช้งานด้วยค่ะ
3. ด้านการสื่อสาร/การสอน/การอธิบาย
ยุ้ยเป็นคนที่ใส่ใจผู้เรียนมากค่ะ จะคอยสังเกตอยู่เสมอว่าเขากังวลเรื่องอะไร รู้สึกยังไง เข้าใจเนื้อหาหรือเปล่า ถ้าเห็นว่าเริ่มมีสีหน้าไม่มั่นใจ หรือเงียบไปนิดนึง ยุ้ยก็จะค่อยๆ ปรับจังหวะ ปรับคำอธิบาย เพื่อให้เขาเข้าใจได้ในแบบของแต่ละคน หากสังเกตว่าเขากำลังรู้สึก overwhelmed (ข้อมูลท่วมท้น) ก็จะหยุดพัก ชวนคุยเล่น แล้วรีบสรุปจบค่ะ
สไตล์การสอนของยุ้ยไม่ใช่แค่ “ทำหน้าที่สอน” แต่เป็นเหมือนพี่ที่เคยผ่านเส้นทางนี้มาก่อน เอาประสบการณ์จริงมาเล่า มาแนะนำกัน มองผู้เรียนเป็นเหมือนเพื่อน เป็นทีมเดียวกัน ยุ้ยอยากให้พวกเขาสบายใจที่จะพูดกับยุ้ยตรงๆ ว่า “อันนี้ยังไม่เข้าใจเลยครับ” หรือ “ขอตรงนี้ซ้ำอีกหน่อยนะพี่”
เพราะสุดท้ายเป้าหมายของการเรียนกับยุ้ยคือ อยากให้ทุกคนมั่นใจในตัวเองเวลาลงมือทำของจริง และให้ได้รู้ว่า “ฉันก็ทำได้เหมือนกันนะ! เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้ยากนี่นา” หรือถ้าติดปัญหาก็สามารถนำสิ่งที่ได้เรียนไปปรับใช้หรือประยุกต์ในสถานการณ์จริงได้
สิ่งที่ค้นพบจากการเข้าใจตัวเอง
เมื่อรู้แล้วว่าเราทำงานแบบ M + V shaped เรามีเส้นทางชัดเจน ก็ทำให้ยุ้ย “ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น” อีกต่อไป เราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างหรือเก่งทุกด้าน แค่เป็น “ตัวเองในแบบที่ลึกพอ เข้าใจพอ และช่วยเหลือคนอื่นได้จริง” แค่นั้นก็มีคุณค่าแล้ว … สิ่งที่เรายังทำได้ไม่ดีพอก็พัฒนาเพิ่มตามความเหมาะสม ส่วนที่ไม่ถนัดก็ถอยออกมาให้ผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ เขาดูแล
ยุ้ยเชื่อเสมอว่า… เราจะได้ผลงานดีที่สุดจากใคร ก็เมื่อให้เขาได้ทำสิ่งที่ถนัดค่ะ
มาถึงตรงนี้ ยุ้ยอยากชวนคุณลองถามตัวเองดูเล่นๆ ว่า
- เราเก่งลึกด้านไหน?
- เราชอบเข้าใจคน หรือชอบแก้โจทย์เทคนิค?
- เราเป็นสายลุยเดี่ยว หรือสายประสานงาน? (อย่าตัด น.หนู ออกนะ)
ไม่มีรูปแบบไหนถูกหรือผิด
แค่เข้าใจตัวเองให้มากขึ้น เมื่อรู้ว่าทักษะไหนคือจุดแข็ง เราจะเลือกบทบาท เลือกเส้นทางอาชีพได้อย่างมั่นใจ เราทุกคนสามารถออกแบบชีวิตที่เหมาะกับตัวเองได้ค่ะ 😊💙
เขียนโดย : กัญญ์ชิตา วริทธิ์ทินานนท์ (ยุ้ย)
Featured Image : @xadartstudio